ห้วยยอด มาจากคำว่า “ห้วย” ที่เป็นแม่น้ำ กับคำว่า “ยอด” ที่เป็นภูเขา ดังนั้น อ.ห้วยยอด นั้นมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทั้งแม่น้ำและภูเขา แน่นอนว่าทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันครบทั้งแม่น้ำและภูเขาเลย อ.ห้วยยอด จ.ตรัง มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ตามพวกเรามาดูกันเลย

การจองตั๋วเครื่องบินไปตรังก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพ Traveloka สะดวก รวดเร็ว เวลาจ่ายเงินก็ง่าย ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองได้ จากตรังเดินทางมาถึง อ. ห้วยยอด ครึ่งชั่วโมง ก็เดินเล่นแถวตลาดห้วยยอดกันก่อน ตึกที่นี่มีสีสันและดูโบราณดูสวยงามไปอีกแบบ


ว่าแล้วก็ถ่ายรูปซะหน่อย และในตลาดห้วยยอดนี้มีตรอกอยู่ด้วย เป็นตรอกในตำนานของห้วยยอดเลยก็ว่าได้ เป็นเส้นทางลัดเชื่อมตลาดในและตลาดเช้าของคนที่นี่ เป็นเส้นทางแคบๆ แต่มีสเน่ห์

ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็เดินหาอาหารเช้าทานแถวๆตลาด มีร้านเก่าๆหลายร้าน บรรยากาศร้านดูโบราณแต่สะอาด มีผู้สูงวัยมานั่งทานอาหารเช้ากัน คุยกันฉันเพื่อน ดูอบอุ่นมากๆเลย

ทานเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวเขาพระยอดซึ่งติด 1 ใน 10 วัดบนเขาที่มีความสวยงามของไทย


แม้วัดจะอยู่บนเขา แต่การเดินทางก็สะดวก รถไปจอดถึงที่วัดเลย แต่ต้องเดินต่อไปอีกนะ แต่ทางเดินเป็นบันไดเดินสะดวก ข้างทางจะมีป้ายคติสอนใจอยู่ตลอดทางเดินขึ้น

มาสักการะเจดีย์บัวเงินบัวทอง จากนั้นก็เดินขึ้นไป ชมวิวห้วยยอดจากมุมสูง


ขั้นนี้ก็สามารถเห็นวิวมุมสูงได้แล้ว แต่ยังมีขั้น Advance คือต้องปีนเขาขึ้นไปอีก


ปีนมาแปปเดียวก็ถึงจุดสูงสุดของที่นี่ วิวสวยมาก ช่างภาพนิยมขึ้นมาถ่ายดวงอาทิตย์ขึ้นที่นี่กัน บางครั้งหากโชคดีก็จะเจอทะเลหมอกสวยงามอีกด้วย


ระหว่างทางก็มีพระพุทธบาทให้สักการะกัน เสร็จแล้วเราไปต่อกันที่วังเทพทาโร ที่นี่มีมังกรที่แกะสลักจากไม้หอมอย่างเทพทาโรทั้งหมด 89 ตัว



ลอดท้องมังกรเพื่อความสิริมงคลแต่ละช่องก็จะเสริมบารมีในด้านต่างๆ

พ่อมังกร

แม่มังกร ใหญ่ที่สุดในบรรดามังกรที่นี่ สามารถมาขออธิษฐานได้ เพราะไม้เทพทาโร คือท่อนไม้เทวดา เชื่อว่ามีเทวดาอยู่ในเนื้อไม้

และจุดมหัศจรรย์ จะเห็นมังกรพ่อและมังกรแม่รวมกันเหมือนเป็นตัวเดียวกัน

มังกรเหินฟ้า เป็นบัลลังก์มังกร ให้ความรู้สึกเป็นผู้ยิ่งใหญ่มาก

จากนั้นก็เดินไปรอบๆ มีซุ้มต่างๆ ให้ถ่ายรูปและใช้งานได้จริงอย่างมาประชุมหรือสอนหนังสือท่ามกลางธรรมชาติ รอบๆสวนก็มีทั้งกลอนต่างๆทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ซึ่งครูจรูญ แก้วละเอียด เป็นผู้ประพันธ์ และเป็นเจ้าของผู้ก่อตั้งที่นี่


สุดท้ายมาดูสินค้า OTOP โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้เทพทาโร
ต่อด้วยถ้ำเลเขากอบที่เป็น Unseen in Thailand ถ้ามาห้วยยอดคือห้ามพลาดที่นี่


ค่าบริการลำละ 300 บาทนั่งได้ประมาณ 5 คนครับ จะมีเจ้าหน้าที่ 2 คน พายเรือเข้าไปในถ้ำ


ชมความงามของถ้ำและ มีหินย้อยที่มีลักษณะเหมือนท้องช้าง เขาว่าลอดท้องช้างแล้วจะโชคดี


ไฮไลท์อีกอย่างคือถ้ำเจ้าสาว มีหลายทางให้เลือก อันนี้เราไม่ขอเผยรายละเอียด ต้องลองมาลอดดูครับ แล้วไกด์จะทำนายให้เรา

จากนั้นก็เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เราจะไปลอดท้องมังกรกันที่เห็นด้านบนนั่นเป็นกระดูกสันหลังของมังกร

นี่เป็นหัวใจมังกร

เราจะต้องนอนไปกับเรือ เพราะด้านบนต่ำมากๆ คนพายเรือจะช่วยดันเรือให้ลงต่ำเพื่อไม่ให้ผนังถ้ำโดนตัวเรา เรียกได้ว่าตื่นเต้นกันมากๆ สาวๆ มานี่มีกรี๊ดแน่นอน

เสร็จจากถ้ำเลเดินทางไม่ถึง 1 กิโลเมตรมาทานข้าวเที่ยงที่ร้านแลวิว ที่เขาหัวแตก

เขาหัวแตกรอบๆ เป็นแหล่งน้ำ สามารถพายเรือแคนูรอบๆได้ และมีกิจกรรมต่างๆเช่น ปั่นจักรยาน และเด็กๆ ก็ชอบมาโดดน้ำกัน




ร้าน แลวิว ก็แปลว่าชมวิว ทานอาหารไปชมวิวแม่น้ำไป สดชื่น ลมเย็นสบาย เห็นเด็กๆโดดน้ำ อาหารมีหลากหลายแต่เราเน้นอาหารใต้กันครับรสชาติ จัดจ้าน เด็ดมากๆ

อิ่มท้องแล้วเตรียมลุยต่อ ไปน้ำตกบ่อ 7 ลูก ค่าเรือคนละ 50 บาท



วิวข้างทางสวยมาก นั่งเรือมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงท่าเรือแล้ว

พี่เจ้าหน้าที่ใจดีมีเสื่อมาให้นั่งด้วย (จริงๆควรเตรียมมาเองนะ)

นั่งเล่นด้านล่างกันซักพัก ไหนๆ ก็มาแล้วเดินลุยขึ้นไปด้านบนซะหน่อย


ระหว่างทางเราก็สามารถถ่ายรูปได้เรื่อย ฮ่าๆๆ


เดินเหนื่อยๆ หาแอ่งน้ำแช่ตัวกันซะหน่อย

จากนั้นก็เดินทางกลับไปยังอ่างเก็บน้ำท่างิ้วที่อยู่ใกล้กันนิดเดียว ที่นี่วิวสวย ลมดีมาก


จะชมอ่างเก็บน้ำหรือชมดวงอาทิตย์ตก ก็สวยทั้งนั้น

มื้อเย็นเราฝากท้องกันที่เรือนผู้การ ร้านดัง ร้านใหญ่แห่งห้วยยอด


นอกจากอาหารอร่อยแล้ว มีจุดนั่งเล่น และ ถ่ายรูปเพียบ

อาหารที่นี่ขึ้นชื่อหลายอย่าง เมนูแนะนำก็จะเป็น

หากใครไม่อยากขับรถกลับ ที่นี่มีที่พักบริการอีกด้วย สนามบอลเขาก็มีให้เล่นด้วยนะ

จบไปแล้วสำหรับทริปห้วยยอดในครั้งนี้ แต่แหล่งท่องเที่ยวในห้วยยอดยังไม่หมดยังมีอีกเยอะเลย รอติดตามชมทริปต่อไปของเรากันนะครับ