เขาไข่นุ้ย เป็นที่ที่ผมอยากมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้มาซะที วันนั้นผมกลับจากภูเก็ตมาตรังผ่านพังงา ก็เลยคิดว่าไปนอนค้างซักคืนแล้วค่อยกลับละกัน แต่สิ่งที่ดูเหมือนบังเอิญกลับได้รับบรรยากาศดีๆอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อปี พ.ศ. 2513 บังนุ้ย ได้ชวนบังไข่มาทำสวนบริเวณนั้นแล้วพบหมอกสวย และได้เชิญชวนชาวบ้านมาชมด้วย จนกระทั่ง ปี 2555 มีการจัดอบรมกับนักศึกษาเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บังไข่กับบังนุ้ยเลยชวน นศ. ไปดูหมอก นศ. เลยตั้งชื่อแห่งนี้ว่าทะเลหมอกภูไข่นุ้ย ซึ่งคำว่าภูเหมาะกับภาคเหนือและอีสาน เลยเปลี่ยนมาใช้คำว่า เขาไข้นุ้ยเป็นต้นมา
เริ่มต้นโดยการโทรไปจองที่พักก่อนครับ ผมโทรไปช่วงบ่าย และจะไปพักเย็นวันนั้นเลย ราคาเต๊นหลังละ 350 บาทนอนได้ 2 คน และเหมารถถ้าเกิน 6 คน คิด 700 บาท บ้านน่าจะอยู่ประมาณ 400-500 ผมจำไม่ได้ เพราะเขาลดให้ผมบ้าน + เหมารถ 1,100 บาท ไปกันสองคน
นัดกันที่โรงเรียนบ้านฝ่ายท่าครับ ทางโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือกับที่พักโดยให้ที่จอดรถนักท่องเที่ยว และมีวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย
ไม่นานลุงนุ้ยก็มารับเราด้วยรถคันนี้ครับข้างนอกดูใหม่ ข้างในเก่าไปนิด แต่ไม่เป็นไร ถึงที่หมายเป็นพอ


โฉมหน้าบังนุ้ยครับมีลูกชื่อบังเหลก หรือบังเลกเป็นคนคอยประสานงาน
การเดินทางนั้นเราไม่ต้งเดินขึ้นไป เพราะรถส่งให้ถึงที่ งี้ก็สบายละซิ? ก็ไม่เท่าไหร่ครับ เพราะเส้นทางวิบากมาก มีหลุมบ่อเยอะมาก ในภาพดูเรียบๆ แต่บางจุดเป็นเส้นที่ถูกน้ำกัดเซาะลึก รถเก๋งมาไม่ได้ เคยมาแล้วและพังไปแล้ว ต้องรถสำหรับลุยทางวิบากเท่านั้น ใครเมารถทานยามาก่อนเลยโยกกันมันส์มาก
ขึ้นมาประมาณ 40 นาที ก็ถึงแล้ว นี่เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ช่วงเย็น หมอกยังหนาอยู่เลย
หรือจะไปชมด้านล่างก็ได้ มีลานกว้างประมาณนี้
เมฆฝนมาเยอะเลยไม่ได้ชมดวงอาทิตย์ตกเต็มๆตา
ที่พักที่นี่มีหลายแห่ง ของชาวบ้านเช่น ของบังไข่,ของบังนุ้ย หรือของนักลงทุนต่างจังหวัด ฯลฯ
แต่ละที่พักก็จะมีร้านอาหารของตัวเอง ที่นี่คนยังมาไม่เยอะ ไม่มีคนดูแลประจำ เลยไม่มีอาหารให้สั่ง ให้นำกันมาเอง หรือเจ้าของที่พักจัดเตรียมให้ แต่ต้องโทรบอกกันก่อน
เมื่อตกดึกก็อาบน้ำ แล้วปิ้งย่างกินกัน เราซื้อของกันที่ Lotus ใกล้ๆ แถวนั้น เอาแค่วัตถุดิบไป เครื่องครัวพวก จาน ชาม มีด เตา ที่โน่นมีครบแล้ว น้ำแข็งลุงเขายังซื้อมาให้เลย ลุงเขาเตรียมกับข้าวของแกมาเอง ผมก็ลืมว่าลุงแกเป็นมุสลิมไม่น่าซื้อหมูมาด้วยเลย ไม่นานคงได้ชวนแกมาร่วมวงด้วย




ปิ้งย่างเพลินเลย กินจะหมดแล้วนึกขึ้นมาได้ ลืมถ่ายรูป !! อากาศเย็นๆ กินปิ้งย่างร้อนๆ มันจะฟินนะ
กินเสร็จเรายังไม่นอน เราไปที่ลานด้านหน้า เพื่อนอนดูดาว
ประมาณ 4 ทุ่มกว่าหมอกเริ่มมา โดนแสงไฟจจากที่พักกระทบหมอก เห็นไฟเป็นแฉกๆ
จากนั้นเราเข้าที่พักประมาณ 5 ทุ่ม ลุงแกตื่นมาพอดี ลุงแกนอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม แกบอกปกติ แกตัดไฟตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง (ที่นี่ใช้เครื่องปั่นไฟ) เราเข้านอนปุ๊บ ชาร์จแบตมือถือปั๊บ ไฟดับโป๊ะ!! ไม่เป็นไร มี power bank
เราตื่นกันมาช่วง 6 โมงเช้า บรรยากาศหน้าที่พัก
ด้านในก็จะประมาณนี้ อยู่แบบเรียบง่ายครับ
บรรยากาศยามเช้า
เราเตรียมอาหารเช้ามาเองแล้วเป็นขนมปัง แต่ลุงเขาก็ซื้อขนมพื้นเมืองมาให้ทานกันอีก ใจดีมากๆ
พอสายๆ เราก็เดินทางกลับครับ หากพูดถึงทะเลหมอกทางใต้ เขาไข่นุ้ย ก็เป็นอีกที่ที่น่าจดจำสำหรับผม เดินทางสะดวก นั่งรถมาถึงเลย คำแนะนำคือ ใครเมารถทานยามาด้วย, นำอาหารมาปิ้งย่างกับเพื่อนฝูง, ชาร์จแบตไว้ก่อนตั้งแต่ตอนเย็น(เพราะตัดไฟตอนกลางคืน), และอย่าลืมวางเรื่องเครียดๆไว้ และเสพบรรยากาศตรงหน้าให้มีความสุขกันนะครับ