
เกาะลิบงเป็นเกาะพี่ใหญ่ของตรัง เนื่องจากเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ที่นี่มีวิถีชีวิตมากมายทั้งคนและสัตว์ให้ชมกัน โดยเฉพาะสัตว์หายากอย่างพะยูน และทริปนี้เอาใจคนที่ชอบไปแบบประหยัดงบประมาณ พร้อมแล้วตามนายหัวป๊อปแห่งรีวิวตรังไปกันเลย
นี่เป็นแผนที่แสดงสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ครับ เป็นแผนที่ของที่พัก Andalay Beach Resort (ชมรีวิว Andalay ได้ที่นี่)

หากต้องการเดินทางจาก กทม. มาตรัง โดยไม่มีรถส่วนตัว และชอบประหยัดๆ แนะนำจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าช่วงโปรโมชั่น จะมีราคารวมไม่เกิน 500 บาทด้วย แต่ถ้าไม่อยากวางแผนล่วงหน้านาน สามารถนั่งรถไฟชั้น 3 มาได้ด้วยราคาประมาณ 300 บาทเองครับ
หากมาถึงตรังแล้วหน้าสถานีรถไฟมีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าครับ สามารถเอาขึ้นเรือได้ในราคา 60 บาท หรือ จะไปเช่าบนเกาะก็มี ราคาเช่าประมาณ 300 บาท เราจะมาลงเรือกันที่ท่าเรือหาดยาว ค่าเรือ 40 บาท
เนื่องจากผมอยู่ตรัง ผมเลยขับรถยนต์มาจอดที่ท่าเรือหาดยาวและเช่ามอเตอร์ไซค์ที่บนเกาะลิบงครับ


มาถึงแล้วที่พัก เกาะลิบงโฮมสเตย์ บ้านจะไหน อยู่ติดกับสะพานหลีกภัยเลยครับ ที่พักนี้ได้รับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยมา 2 ปีแล้ว เป็นกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันสรา้งโฮมสเตย์ที่บ้านของตัวเอง และเมื่อได้รายได้ก็จะแบ่งกัน บ้านจะไหนน่าพักมากๆ ดังภาพที่เห็นเลย ติดทะเล เมื่อตอนน้ำขึ้นจะเหมือนบ้านอยู่กลางทะเลเลย ตอนน้ำลงสามารถเดินลงไปได้ ที่พักที่นี่คนละ 200 บาทครับ

อันนี้อีกห้องหนึ่งติดกับครัว ที่บ้านจะไหนมีห้องนอนหลายห้องครับ พร้อมรองรับหลายคน บางห้องก็นอนได้ 7-8 คน

ห้องน้ำที่นี่ไม่ได้ใหม่หรือหรูหราอะไร สไตล์บ้านๆ แต่สะอาดครับ มี 4 ห้อง แบ่งเป็น ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง

และนี่คือป้าจะไหน เจ้าของที่พักที่นี่ครับ ใจดี เป็นกันเอง

หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถไปสำรวจที่เที่ยวต่างๆ แถวหาดทุ่งหญ้าคา ทางไปไม่ลำบากครับ แต่จะมีเนินสูงหน่อย มอเตอร์ไซค์ขึ้นได้สบายๆครับ ขับมอเตอร์ไซค์ไปถามทางไปเรื่อยครับ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เอารูปทางเข้ามาลงเพราะ รูปเหล่านั้นถ่ายด้วยมือถือและมือถือตกน้ำทะเลพังไปแล้วครับ

แล้วเราก็มาถึงน้ำตกโต๊ะแช๊ะ เป็นน้ำตกที่ไหลลงทะเลเลย ไมแน่ใจว่าเป็นที่เดียวในประเทศไทยหรือเปล่า ทางเข้าจะไม่มีป้ายบอกอะไรเลย เป็นทางแคบๆใกล้ๆทางจะมีกระท่อมเล็กๆอยู่

ลงไปด้านล่างน้ำตกจะเจอหาดแบบนี้


จากนั้นเราก็ไปหาดทุ่งหญ้าคา จะมีป้ายบอกทางเข้าอยู่
มีชาวประมงพายเรือมาจอดที่หาดทุ่งหญ้าคาแห่งนี้ในเวลาเย็น


สะพานหิน ป้ายบอกทางเข้าอยู่ ขับมอเตอร์ไซค์มาจอดที่สวนยางเดินมาประมาณ 200 เมตรก็จะเจอหาด


ด้านซ้ายมือที่เห็นนะแหละครับสะพานหิน

นี่เป็นรูปสะพานหินใกล้ๆ ครับ
น้ำที่นี่ค่อนข้างใสเลยทีเดียว

ที่เกาะนี้มีปูเสฉวนเยอะมากๆ เยอะที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นจากที่ไปหลายๆเกาะมา

พระอาทิตย์ตกแถวหน้าหาด andalay beach resort ก็สวยไม่แพ้กันครับ

กลับมาที่หมู่บ้านแถวบ้านพักเรา
อาหารเย็นพร้อมแล้ว อาหารราคาต่อคน 150 บาทครับ ถ้าจะเอาแบบปิ้งด้วย ก็ 250 ครับ อย่างที่เห็นครับ ถูกมากๆ

มีกั้งเนื้อแน่นๆ เนื้อคล้ายกุ้งมังกรเลย พวกมันอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน

ผักสดกับน้ำพริก


หมึกผัดดำ อันนี้ดูไม่น่ากิน แต่หลังจากชิมไปแล้ว อร่อยสุดๆ แนะนำเลย

แล้วก็มีปลาทอด ปู หอยชักตีน หอยนางรม




กินอิ่มแล้วก็เข้าห้องพัก ชมบรรยากาศแล้วก็นอนหลับไป
ตื่นเช้ามาชมบรรยากาศ และวีถีชีวิตชาวบ้าน


แล้วมาทานอาหารเช้าแถวหมู่บ้านครับ อาหารไม่แพงเลย ฝรั่งตกใจปกติกินกาแฟแก้วล่ะ 50 บาท ที่นี่ ถุงละ 5 บาท

ทั้งหมดนี้ก็ประมาณ 100 บาท

จากนั้น ป้าจะไหน พาเราไปชมกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ มีเยอะแยะมากมาย แต่ที่เด่นคือกุ้งมังกรที่สีสันสวยงามเหล่านี้ เขาขายกิโลละประมาณ 2,000 บาท ตัวที่เห็นนี่ก็ประมาณ 600 บาทครับ

เสร็จแล้ว เราจะขึ้นเขาบาตูเต๊ะเพื่อมาดูพะยูนกัน


ทางขึ้นก็มีแบบทั้งสบายและลำบากครับ

มาถึงชั้นแรก ก็เหนื่อยพอสมควร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เห็นหอชมพะยูน ที่นั่นก็ดูได้เหมือนกัน แต่ที่นี่จะดูเห็นชัดกว่า
หลังจากที่เราไมเ่ห็นเราก็ขึ้นไปชั้น สองหรือ ชั้นสูงสุด ทางลำบากกว่ามาก
แต่ก็มีบางช่วงที่มีสะพานไม้เดินง่ายหน่อย ซึ่งทางข้ึนมาค่อนข้างเสี่ยง ถ้าไม่มีสะพานไม้ต้องเดินตามแนวหิน และหินก็ค่อนข้างแหลม สูงชัน

จุดชมวิวสูงสุด



เห็นวิวประมาณนี้ครับ แต่ไม่เห็นพะยูน เพราะน้ำกำลังลงแล้ว ควรสอบถามชาวบ้านก่อนว่าช่วงไหนน้ำขึ้น เพราะพะยูนจะขึ้นมากินหญ้าทะเลช่วงน้ำขึ้นสูงสุด แล้วว่ายลงกลับช่วงน้ำลง
และสุดท้ายสิ่งที่มหัศจรรย์อีกอย่างของที่นี่คือ บ่อน้ำจืดกลางทะเล บ่อนี้เมื่อน้ำทะเลขึ้นจะมีความเค็ม แต่เมื่อน้ำลงจะกลายเป็นน้ำจืด สามารถทานได้ บ่อนี้อยู่หน้าบ้านจะไหนเลย

ผมถามพี่เขาว่าอยู่ตรงไหน พี่เขาบอกอยู่ตรงกลุ่มต้นไม้เหล่านี้เลย

ผมเจอละครับ แต่ไม่เห็นเป็นบ่อ หรือว่าจะเป็นแอ่งน้ำนี้ ไม่รอช้า ชิมดูเลย เค็มมากๆ คงไม่ใช่
หรือบ่อนี้ หลังจากชิมแล้วก็ไม่ใช่ หาอยู่เป็นครึ่ง ชม. ไม่เจอเลยถอดใจกลับ
ทันใดนั้นเองก็ เจอบ่อที่เห็นนี้ แทบกรี๊ด มันต้องใช่แน่ๆ เป็นบ่อซะขนาดนี้ กินไป 3 อึก จืดจริงๆด้วย

พิกัดอยู่ตรงนี้ครับ ปักเสาไว้ด้วย ทำไมเราไม่สังเกตนะ

จากนั้นก็กลับมาที่บ้าน เห็นป้าจะไหนเตรียมของสดไว้เพียบ เราต้องได้กินปูกับหอยแน่ๆ

เป็นไปตามคาดหอยนางรม มาเสิร์ฟแล้ว บ้านของป้ามีบริการ อาหาร เที่ยงและ มื้อเย็นครับ มื้อเช้าหาทานแถวหมู่บ้านได้เลย แต่ไม่ควรเกิน 7 โมงเช้านะครับ เพราะของจะเริ่มหมดแล้ว

ทานเสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับกันครับ
เกาะลิบงเป็นเกาะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และกิจกรรมมากมาย ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน และสัตว์ต่างๆ เป็นแหล่งดูนกชั้นเยี่ยม และเป็นแหล่งชมพะยูน ที่ไม่สามารถดูได้จากที่ไหน อาหารที่พักราคาถูก แต่รีสอร์ทหรูๆ แพงๆ ก็มี ผู้คนที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม ใครจะมากินหมูที่นี่คงอดนะครับ มีแต่อาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ รอคุณอยู่

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ไม่รวมตั๋วเดินทางไป-กลับตรัง)
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 300 บาท
- ค่าน้ำมันขวดละ 32 บาท
- ค่าที่พักคนละ 200 บาท
- ค่าอาหารคนละ 150 บาท สองมือ เป็น 300 บาท
- ค่าเรือไปกลับ 80 บาท
รวมเป็น 912 บาท ถ้ามากับเพื่อนก็ได้หารค่ามอเตอร์ไซค์ไปอีก และอย่างที่บอกตอนแรก ใครอยากเดินทางมา กทม ถูก ต้องจองตั๋วเครื่องบินช่วงโปร ราคารวม ไม่ถึง 500 บาท ก็มี หรือ นั่งรถไฟชั้น 3 ประมาณ 300 บาทก็มาได้แล้วครับ
พิกัด: บ้านจะไหน(ใกล้สะพานหลีกภัย) เกาะลิบง จ.ตรัง
โทร : 099 309 5757
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/reviewtrang