การทอผ้าหมื่นศรีมีมากว่า 200 ปีแล้ว คนนาหมื่นศรีผูกพันกับผ้าทอ จนเป็นวิถีที่สืบทอดในผืนผ้า คือ 3 ช่วงแห่งชีวิต คือผาตั้ง(ช่วงแต่งงาน) ผ้าพาด(ช่วงบวช) ผ้าพานช้าง(เตรียมพาดโรงศพตัวเองและสามี) และเริ่มน้อยลงเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ขาดวัตถุดิบ และหลังสงครามก็มีผ้าจากจากโรงงานอุตสาหกรรมออกขาย การทอผ้าพื้นบ้านจึงลดน้อยถอยลง จนเกือบหมดไป แต่ในปี 2514 มีกลุ่มผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งที่ฟื้นฟูมาอีกครั้งคือ ยายนาง ช่วยรอด, ยายผอม ขุนทอง, ยายอิน เชยชื่นจิตร, ยายเฉิม ชูบัว ช่วยกันซ่อมกี่และเครื่องมือทอผ้า โดยตั้งใจให้ลูกหลานได้รู้จักและสืบทอดทอผ้าแบบดั้งเดิม
ต่อมาป้ากุศล นิลละออ บุตรสาวของยายานาง ได้รับช่วงต่อมา และตั้งเป็นกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี และได้รับการสนับสนุนโดยหน่วยงานราชการเรื่อยมา ทำให้สมาชิกหันมาทอผ้าด้วยกี่กระตุกกันมากขึ้น
ปัจจุบันนางสาวอารอบ เรืองสังข์ หรือ ป้าฉุย ได้เป็นประธานของที่นี่ ถือเป็นรุ่นที่ 5 นับจากทวดของทวด (ป้าฉุย เสื้อลายด้านขวา) ป้าฉุยได้ซึมซับและได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ และดูแลจัดการกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรีมาถึงปัจจุบัน
หากเห็นป้ายขนาดใหญ่นี้ แสดงว่าท่านได้มาถึงกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรีแล้ว
เดินเข้าไปดูด้านใน ก็จะมีสินค้าที่ทำจากผ้านาหมื่นศรีมากมาย ผมมาวันที่กลุ่มทอผ้าต้องแต่งชุดไปรำแสดงพอดี
ผ้านาหมื่นศรีมีลักษณะพิเศษคือผ้าห่มยกดอก ทั้งที่เป็นโครงสร้างของผืนผ้าและลวดลายมีบางประการที่ต่างจากผ้าทอท้องถิ่นอื่นๆ โครงสร้างของผืนผ้าห่ม เรียงเส้นด้ายยืนเป็นส่วนประกอบต่างๆ คือ ริมตีน เป็นริมนอกสุดของผ้า แม่แคร่ เป็นสีพื้นที่ถัดเข้ามา ลูกเกียบ เป็นริ้วเล็กๆ ตามแนวยืน เป็นคู่หรือเดี่ยวก็ได้ พอถึงตอนทอจะมีส่วนต่างๆ ตามขวางผ้า โดยเว้นชายรุ่งริ่ง (ชายครุย) ไว้ก่อน ต่อไปคือชายบัด ทอคั่นเป็นแถบสี ชายผ้า ทอสีพื้นยาวประมาณคืบ หน้าผ้า ทอลายยกดอก พอเป็นแถบไม่ต้อบครบดอก หน้าผ้านี้จะอยู่ระหว่างลูกเกียบ จากนั้นจึงจะถึงลายยกดอกเมื่อได้ความยาวที่ต้องการแล้วอีกด้านหนุ่งจะทอถอยกลับแบบเดิบไปจนถึงชายครุย
นอกจากโครงสร้างผืนผ้าแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดคือสีสัน ซึ่งนิยมพื้นแดงดอกเหลืองมากที่สุด สีอื่นๆก็พบบ้าง แต่น้อย
เดินไปดูด้านหลังจะเป็นพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี
เข้ามาจะมีวีดีโอให้ชมประวัติของที่นี่ประมาณ 4 นาที นั่งฟังสบายๆ
แล้วมาเดินรอบๆ ดูพิพิธภัณฑ์
ออกแบบเหมือนกับเรามองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วเห็นทุ่งนา ซึ่งนาหมื่นศรีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนา แต่จริงๆแล้วนาทีเราเห็นในนี้คือมาจากหน้าจอ LCD
ประดับประดาสวยงาม มีชีวประวัติครูผ้านาหมื่นศรี และรายชื่อบุคคลสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวกับผ้านาหมื่นศรี
มีสอนขั้นตอนการทอผ้าแบบดั้งเดิม
มีอุปกรณ์พร้อมชื่อเรียกให้ดูกัน



ตัวอย่างชุดสมันก่อนด้านซ้านเป็นชุดใส่ธรรมดา ด้านขวาเป็นชุดแต่งงานที่ฝ่ายหญิงทอให้ เพราะเมื่อก่อนเมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยรุ่นแม่จะถ่ายทอดการทอผ้า หญิงสาวสมัยก่อนจึงทอผ้าเป็นทั้งแต่เริ่มสาว เมื่อชายหนุ่มมาสู่ขอเธอจึงทักทอผ้าแห่งชีวิตชุดแรก เตรียมไว้เป็นผ้าตั้ง และตรงกลางเป็นผ้าพาด ที่ผู้หญิงทอเตรียมไว้ให้ลูกตอนบวช
พิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี มีผ้ามรดกที่พี่น้องบริจาคกันมากว่า 100 ผืน


และผ้ามรดกทอใหม่ที่กลุ่ม central สนับสนุนอีก 32 ลาย
มีประวัติแต่ละช่วงเวลาให้อ่านกัน
ตัวอย่างลายผ้าและชื่อ






มีสมุดไว้ลงชื่อเยี่ยมเยียนและตู้บริจาคเงิน
ออกมาด้านนอกก็จะเห็นพี่ๆป้าๆ เขาทอผ้ากัน พูดคุยถามได้ครับอัธยาศัยดีกันทุกคน



แม้ว่าผ้าตั้ง หรือผ้าพาด ในอดีตไม่นิยมในปัจจุบันแล้ว แต่กลุ่มทอผ้านาหมื่นศรีได้ประยุกต์มาทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ และมีผ้าที่ใช้ในงานสำคัญเช่นผ้าเช็ดหน้าเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว, ผ้าที่ใช้กราบพ่อแม่ในงานแต่งงาน และผ้าพานช้างที่พาดศพก็ยังมีให้เห็นในปัจจุบัน
สินค้ามากมายให้เลือก ราคาจะสูงกว่าเสื้อผ้าทั่วไป เพราะเป็นผ้าทอด้วยมือ และวัตถุดิบดีกว่า อีกทั้งเป็นผ้าโบราณที่มีเรื่องราว ขายทั้งผ้าชิ้นไปตัดเย็บเอง หรือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มสำเร็จรูป






ผ้านาหมื่นศรีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สืบต่อกันมายาวนาน แม้บางสิ่งบางอย่างจะหายไป แต่สิ่งที่ยังอยู่เราควรอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่าจะด้วยซื้อ หรือมาเยี่ยมชม เรียนรู้เรื่องราวของที่นี่ ให้ดำรงคงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน
พิกัด: 119 หมู่ 8 บ้านควนสวรรค์ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง (คลิ๊กเพื่อดูแผนที่บน googlemap)
เปิด: ทุกวัน เช้า-เย็น
ที่จอดรถ: จอดตามแนวถนน
โทร: 075 583 524
ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ facebook.com/reviewtrang