เกาะสุกรเป็นอีกเกาะหนึ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในตรัง ซึ่งเป็นเกาะใหญ่พอสมควร เดินทางจากฝั่งไม่ไกลมากนัก มีเรื่องราวน่าสนใจ มากมาย ตามมาดูกันเลยครับ
ก่อนอื่นการมาตรังนั้นมาได้หลายวิธี แต่ยุคนี้เครื่องบินราคาถูกมากๆ ยิ่งจองกับเว็บไซต์อย่าง Traveloka จะยิ่งสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึง โรงแรมต่างๆด้วย ในเว็บ Traveloka มีส่วนลดและโปรโมชั่นมากมาย สามารถค้นหาที่พักตรังราคาถูกได้เพียบ รีบคลิกไปเลือกดูที่พักตรังในราคาประหยัดกว่าที่อื่นกันได้เลย จองง่าย จ่ายเงินที่ 7-11 ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองได้
เมื่อเดินทางมาถึงตรังแล้ว เรามุ่งหน้าไปที่ท่าเทียบเรือตะเสะ สามารถนั่งรถตู้สายตรัง-ย่านตาขาว ลงที่ตลาดย่านตาขาว แล้วต่อรถสองแถวสายย่านตาขาว-ปากปรน-แหลมตะเสะ มาถึงท่าเรือแหลมตะเสะได้ หากมารถส่วนตัวตรงข้ามท่าเรือมีที่จอดรถ 60 บาทต่อวัน ค่าเรือ 30 บาท ถ้าไปคนเดียวสามารถเหมาลำไปได้ 240 บาท
มาถึงฝั่งเกาะสุกรผมเช่ารถมเตอร์ไซค์ 300 บาท แล้วขับมาที่ ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท นี่เป็นส่วนของ reception
เป็นที่เดียวกับร้านอาหาร ตกแต่งเป็นไม้มีวิวสวนและวิวทะเล พนักงานต้อนรับอย่างดีน่ารัก
ห้องพัก 42 หลัง 5 ประเภท ห้องตกแต่งด้วยไม้ มีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ทุกห้อง
ประเภทห้อง | ราคาช่วง Low Season (1 พ.ค. – 31 ต.ค.) | ราคาช่วง High Season (1 พ.ย. – 30 เม.ย.) |
Standard | 1,000 | 1,400 |
Superior | 1,800 | 2,500 |
Deluxe | 2,000 | 2,800 |
Special Deluxe | 2,800 | 3,500 |
Family Room | 4,500 | 6,500 |
ห้อง Standard
ห้อง Standard เตียงคู่ ห้องนี้แนะนำมาก หากคนไม่ซีเรียสเตียงเดี่ยว ห้องใหม่ เห็นวิวทะเล แต่ราคาถูกสุด ห้อง Superior ก็คล้ายกันแต่ใกล้ทะเลมากกว่า
และนี่เป็นห้อง Deluxe ติดทะเล
ทีวีจอแบน,ตู้เย็น, ตู้เซฟ ห้องน้ำกว้างขวาง สะอาด
และนี่เป็นห้อง Deluxe เหมือนกันแต่ออกแบบต่างกันส่วนตัวผมชอบห้องนี้มากกว่า
ดูใหม่กว่า กระจกรอบ เห็นวิวทะเล
มาดูห้อง Super Deluxe กันบ้าง อยู่หน้าสระว่ายน้ำ
วิวจากห้องนี้สวยมาก
สระว่ายน้ำ
มาดูห้อง Family กันบ้าง เป็นห้องใหญ่แบ่งเป็นหลายห้อง
สุดท้ายห้องประชุม
จุได้เป็นร้อยคนครับ แต่วันที่ผมไป จะมีกลุ่มนึงมาแค่ 30 กว่าคนเขาเลยจัดเก้าอี้ให้พอดี
อุปกรณ์ครบ
สวนที่นี่มีหลายจุด กว้างขวาง เดินเล่นสบายๆ
สำรวจที่พักกันเสร็จแล้ว เราไปเที่ยวรอบๆเกาะกันเถอะ
ที่นี่ควายเยอะมาก และมีแพะอยู่บ้าง ควายที่นี่ดุมากเข้าใกล้แทบไม่ได้ จะโดนวิ่งไล่
สวนมะพร้าวเยอะมาก และของดีที่นี่คือแตงโม มีแตงโมที่ทำในนา และแตงโมชาดหาด แต่ผมมาผิดช่วงเลยไม่ได้กิน ต้องมาช่วง พ.ย. ผมไปช่วง Low Season ทะเลไม่ค่อยสวยด้วย
วิถีชีวิตของที่นี่มีหลากหลาย
ขับมาชมกลุ่มทำผ้าบาติก
ชาวประมงและลูกสาวช่วยกันทำอวน
ทำเสื่อ
แว๊นไปต่อที่หาดแตงโมเจอกับวัวฝูงนี้
ให้บรรยากาศเหมือนเมืองนอกเลย แต่เปลี่ยนจากฝูงแกะเป็นฝูงวัว
ตกเย็นแล้ว เรามาชมดวงอาทิตย์ตกที่หน้ารีสอร์ท ถือเป็นขุดชมดวงอาทิตย์ตกที่ดีมากๆของเกาะนี้เลย
จากนั้นก็รับประทานอาหารเย็นกัน พร้อมแล้ว
สลัดผลไม้กุ้งทอด
ต้มข่าไก่
ฉู่ฉี่ปู เต้าหู้ทอด
ปลากกระพงแดงทอดขะมิ้น
น้ำพริกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ของพื้นเมืองที่นี่
ราคาก็พอๆกับร้านอาหารทะเลทั่วไปครับ จากนั้นก็ไปนอนพัก เพื่อตื่นมาถ่ายแสงเช้าครับ
ตรงแถวหาดแตงโมมีแอ่งน้ำสะท้อนสวนมะพร้าวอยู่
มาที่จุดชมวิว ผมว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
ขับรถเพลินมาก มีต้นไม้ใหญ่ เป็นธรรมชาติดี ต้นไม้ใหญ่นี้ มีเปลผูกอยู่ด้วย นอนชิวกลางถนนเลยทีเดียว
ไปแถวหมู่บ้านชาวประมง ดูชาวประมงเตรียมตัวออกเดินทางเพื่อไปหาสัตว์น้ำมาขายประทังชีพ
มีต้นไม้ทรวดทรงสวยงามมากมาย สวนยางสวยๆ ไม่รก
ของบนเกาะนึกว่าแพง ที่ไหนได้ถูกมาก ข้าวเหนียวที่เห็นนั่น 5 บาทเอง กลับมาทานอาหารเช้าที่ ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท ครับ อาหารเช้ามี แบบอเมริกัน, แบบเอเชีย และแบบ ตะวันตก
อันนี้อเมริกา ผมเลือกขนมปังไข่ดาว
อันนี้แบบเอเชีย มีพวก ข้าวผัดเนื้อ, ก๋วยเตี๋ยวน้ำ, ข้าวต้มไก่, ผัดไท ฯลฯ ผมเลือกผัดไทยครับ น่ากินมาก
ส่วนยุโรปผมเลือก แพนเค้กแอบเปิ้ลครับ มีอาหารให้เลือกอีกเยอะแยะมากมาย
ขนมท้องถิ่น
หลังจากทานเสร็จเดินเล่นริมหาดหน้ารีสอร์ทซัดพักก็กลับฝั่ง
สรุป เกาะสุกร หาดทรายและวิวทะเลผมว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ (ผมมาช่วงมรสุมด้วย) หลายที่โขดหินเยอะ แต่เสน่ห์ของที่นี่ผมว่าไม่ได้อยู่ที่ทะเล แต่อยู่ที่วิถีชีวิตผู้คน สวนมะพร้าว สัตว์ และธรรมชาติริมทาง และ ญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ท โดยรวมแล้วบริการดี ที่พักวิวสวย น่าพัก ที่สำคัญ ช่วง Low ที่อื่นปิดปรับปรุงกันเยอะแต่ที่นี่ยังให้บริการปกติ ใครชอบชีวิต Slow life ลองมากันดูนะครับ