
วังเทพทาโรเป็นอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องห้าม…พลาด เมื่อมาถึงห้วยยอด จ.ตรัง ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ และมีความสวยงามทางศิลปะจากไม้เทพทาโร สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและบทกลอน มีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย และของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย
เมื่อก่อนละแวกนี้มีไม้เทพทาโรเป็นแสนๆ ต้น ชาวบ้านโค่นทิ้งปลูกยางพารา จะทิ้งไปก็เสียดาย ภรรยาของคุณจรูญ แก้วละเอียด ได้บอกสามีว่าให้ลองทำเป็นมังกรดู เมื่อทำได้ ก็เลยเกิดไอเดีย ทุ่มเงินที่มีทั้งหมดพร้อมที่ดิน 25 ไร่ สร้างเป็นวังเทพทาโรนี้ขึ้นมา ใช้ไม้ประมาณ 8 แสนกิโลกรัม ใช้เวลา 5 ปี จนตอนนี้งบประมาณที่ใช้ไปเกือบ 10 ล้านบาท เพื่อมอบให้แผ่นดิน และวังเทพทาโรมีคนเข้าดูทุกวัน เดือนละประมาณ 5,000 คน วังเทพทาโรมีอะไรดี ตามนายหัวป๊อปแห่งรีวิวตรัง มากันเลยครับ


ทางเข้าครับประดับไปด้วยมังกรยาวไปตามแนวถนน

เมื่อเข้ามาถึงทางซ้ายจะเห็นศาลาต้อนรับ และมังกรมากมาย แต่มังกรไม่ได้มีแค่นี้ยังมีอีกเยอะ ตามไปดูกันครับ
เริ่มต้นที่ศาลาต้อนรับแขก หรือศาลาจวงหอมที่เห็นในรูปกันเลย

เริ่มต้นจะมีน้ำชาจากใบเทพทาโรมาต้อนรับ


วิทยากรส่วนใหญ่จะเป็น คุณจรูญ แก้วละเอียด หรือ ลูกชาย เขาเล่าว่า ไม้เทพทาโร ภาคใต้เรียกจวง หรือ จวงหอม มุสลิมเรียก แตยอ ภาคเหนือ จะไค้ต้น จะไค้หอม และอีสานเรียก ตะไคร้ต้น
ทาโรแปลว่าท่อนไม้ เทพทาโร จึงแปลว่าท่อนไม้เทวดา
สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน

ราก นิยมมาแกะสลัก อยู่ได้นานหลายร้อยปี เพราะมีน้ำมันอยู่ ปลวกไม่กิน วัตถุมงคลโบราณนิยมใช้ไม้หอมเทพทาโร เช่นหลวงพ่อโสธร และเมื่อก่อนจตุคามรามเทพก็รับมวลสารจากที่นี่ไป
ใบ ทำอาหารแทนตะไคร้ได้ ดื่มเป็นชาได้ กินสดใบอ่อนเพื่อดับกลิ่นปากและลดแบคทีเรียในช่องปากได้ได้ ใบมีกากใยสูงช่วยระบบย่อยอาหาร

เมล็ด ใช้ปรุงอาหารแทนพริกได้ แก้แมลงกัดต่อย ป้องกันยุง แก้ปวดเมื่อย (สมัยสงครามโลกกินแทนพริกยามพริกขาดแคลน)
ดอก สามารถเคี้ยวดับกลิ่นปาก และดื่มเป็นชาได้
ต้น ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่เป็นส่วนที่หอมน้อยสุด
ถ้ารากต้องรอ 25 ปี และ ต้องรอให้มันตาย 2-3 ปี ถึงจะใช้งานได้ เพราะไม้สดมาใช้ไม่ได้ มันปริแตก เมล็ดใช้เวลารอ 2.5-5 ปี แต่อย่างอื่น 7 เดือนก็ใช้ได้แล้วเช่น ดอก ใบ


ฐานต่างๆ ที่นี่มี 5 ฐานแต่ก่อนจะไปเข้าฐาน เรามาถ่ายรูปกับ จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างคือ บัลลังก์มังกร หรือ มังกรเหินฟ้า แต่ผมดูแล้วนึกถึงซีรี่ย์ Game of Thrones มาแล้วต้องไป โพสต์ท่าเท่ห์ๆบนนั้นซะหน่อย

ทางขึ้นเป็นบันไดสะดวกมากๆ มาแล้วจุดนี้ต้องห้ามพลาด ต้องมาถ่ายๆ

ก่อนจะเข้าไปฐานต่างๆ มีหมวกให้ใช้บริการฟรีด้วยทำจากธรรมชาติ
เข้าฐานที่ 1 กันเลย เรียนรู้พฤกษศาตร์เทพทาโร

มีสถานที่นั่ง ทำกิจกรรมต่างๆ





ลอดถ้ำมังกร

ระหว่างเดินศึกษาธรรมชาตินั้น ก็มีกลอนให้อ่านกัน


บริเวณนี้จะมีลำธารไหลผ่าน ปกติน้ำจะใส แต่ผมมาช่วงหลังฝนตก เลยขุ่นไปหน่อย
ฐานที่สอง จะมีโคลง 29 บทแต่งเพื่อเน้นย้ำ ทศพิธราชธรรม ลึกซึ้งกินใจ ได้ข้อคิด และเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

มาถึงทางแยกเลี้ยวขวาเพื่อไปฐานที่ 3




เรื่องแปลกที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ต้นเทพทาโร มี 4 กลิ่นที่ต่างกันออกไปในแต่ละต้น มีกลิ่นเสม็ดขาว, กลิ่นดอกไม้, กลิ่นรูทเบียร์, กลิ่นตะไคร้หอม ซึ่งสามารถทดสอบดูได้โดยใช้มือขยี้ตรงใบแล้วนำมาดม

หลังจากขยี้แล้วก็มีจุดให้ล้างมือ

ระหว่างทางมีตู้รับบริจาค

เราเดินออกมาตรงด้านหน้าจะเห็นป้าย กราบแผ่นดินขนาดใหญ่อยู่ครับ

ต่อไปเราจะไปฐานที่ 4 คือ ลอดท้องมังกร 9 ช่องมงคล




หลังจากนั้นเราจะข้ามถนนไปฐานสุดท้าย ถือว่าเป็นไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ มังกรเทพทาโรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แม่มังกร สามารถมาขออธิษฐานได้ เพราะไม้เทพทาโร คือท่อนไม้เทวดา เชื่อว่ามีเทวดาอยู่ในเนื้อไม้

พ่อมังกรอยู่ด้านหลัง

มีจุดมหัศจรรย์คือถ้ายืนจุดนี้จะเห็น พ่อและแม่มังกรรวมกันกลายเป็นมังกรตัวใหญ่ตัวเดียวกัน

นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีสวนมาลี เป็นสวนดอกไม้หอม

สวนคำสอน
จากนั้นเดินทางเข้าไปที่ศูนย์ OTOP ของที่นี่

ด้านหน้าศูนย์ OTOP ก็จะมีสวนข่อย

นี่เป็นโฉมหน้ามังกรเทพทาโรที่แพงที่สุด ใช้รากไม้ 300 กว่าปี หนัก 3 ตัน


ของที่ระลึกมีมากมาย




ที่นี่มีอะไรมากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ที่คิดไว้คือเป็นผลิตภัณฑ์จากไม้เทพทาโร และมีมังกร 2-3 ตัว แต่นี่ มีถึง 89 ตัว และบางตัว ใหญ่มาก และมีกิจกรรมอะไรให้เรียนรู้เยอะแยะ จึงไม่แปลกที่มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ มาเที่ยว มาถ่ายรูป และนักเรียน นักศึกษา มาดูงาน ตั้งแต่ อนุบาลถึง ปริญญาเอก กันมากมาย และวิทยากรก็อยู่ให้คำแนะนำตลอด พร้อมเปิดเพลงเบาๆ ฟังเพลินๆ
และทุกครั้งที่มีคนมากล่าวลา คุณจรูญ แก้วละเอียด ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นปราชญ์ท้องถิ่น จะอวยพรเสมอว่า
ที่ตั้ง: เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (คลิ๊กเพื่อดูแผนที่) โทร 087-889-3324,089-645-0447
เวลาเปิด: 08.00-17.00 น.